นักแบดมินตันระดับโลกหลายคนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับระบบการแบ่งสายของบีดับเบิ้ลยูเอฟ ในการแข่งขันแต่ละทัวร์นาเมนต์ ว่ามันมีปัญหาหรือไม่

ตัวอย่างเช่น แอนโธนี ซีนีซูกา กินติ้ง ที่ต้องพบกับอึ้ง กา หลง แองกัส ในรอบแรกของรายการฮ่องกง โอเพ่น ซึ่งเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์นี้ ทั้งที่เขาเพิ่งแข่งกับชายเดี่ยวจากฮ่องกงคนดังกล่าวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในรอบแรกของรายการฝูโจว ไชน่า โอเพ่น

จากสถิติพบว่าอึ้ง กา หลง และกินติ้ง เคยแข่งกันมาแล้ว 4 ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นการพบกันในรอบแรกทั้งหมด

การพบกันใน 4 ครั้งดังกล่าว ได้แก่
รายการออล อิงแลนด์ แบดมินตัน แชมเปี้ยนชิพส์ (อึ้ง กา หลง เป็นฝ่ายชนะ)
รายการแบดมินตัน เอเชีย แชมเปี้ยนชิพส์ (อึ้ง กา หลง เป็นฝ่ายชนะ)
รายการฝูโจว ไชน่า โอเพ่น (อึ้ง กา หลง เป็นฝ่ายชนะ)
และรายการโยเน็กซ์ ซันไรส์ ฮ่องกง โอเพ่น

บีดับเบิ้ลยูเอฟใช้ระบบซอฟต์แวร์ในการแบ่งสายของแต่ละรายการ ยกเว้นโทมัส/อูเบอร์คัพ และสุธีรมานคัพ ที่จะมีการเผยแพร่สู่สาธารณะ

ประเด็นนี้ได้รับแรงเสียดทานอย่างมาก เมื่ออันเดอร์ส แอนทอนเซ่น หยิบยกขึ้นมาพูดถึงในโซเชียลมีเดียของเขา แอนทอนเซ่นกล่าวว่ามาเธียส โบ/ แมดส์ คอนราด ปีเตอร์เซ่น ก็พบกับโจว ห่าว ตง/ หาน เชง ไค ในรอบแรกถึง 4 ครั้งจาก 5 รายการล่าสุดเช่นกัน ซึ่งความน่าจะเป็นที่จะเกิดกรณีเช่นนี้มีเพียงแค่ 0.00144% เท่านั้น

ขณะที่แชมป์โอลิมปิกอย่างเฉิน หลง ก็กล่าวถึงประเด็นนี้เช่นกัน ในรายการฝูโจว ไชน่า โอเพ่น ทั้งตัวเขาเอง, หลิน ตัน, ลู่ กวง ซู และหวง ยู่ เซียง ต่างก็ถูกวางรายชื่อไว้ติดกันในสายการแข่งขัน นั่นแปลว่าพวกเขาต้องพบกันเองทั้งในรอบแรกและรอบที่สอง

“ผมไม่เคยเห็นการแบ่งสายอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิตการเล่นแบดมินตัน บีดับเบิ้ลยูเอฟควรจะเปิดเผยการแบ่งสายให้สาธารณชนรับทราบ” เฉิน หลง กล่าว

ในเว็บไซต์สื่อยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Xinhuanet.com ก็มีการนำเสนอประเด็นนี้เช่นกัน โดยบีดับเบิ้ลยูเอฟยืนยันว่าระบบแบ่งสายการแข่งขันมาจากการแรนดอม (สุ่ม) ทั้งหมด และพวกเขาจะไปตรวจสอบเกี่ยวกับความผิดปกติดังกล่าว